Studer C37 สุดยอดรีลหลอด


7 ธ.ค 2560 หลังจากที่ NAB Hub เดินทางมาถึงก็รีบหาเวลาเข้าไปจัดการให้ Studer C37 ให้สามารถเล่นม้วนรีลมาสเตอร์ได้ ทดลองใส่ NAB Hub เข้ากับ Star Hub ข้างเดียวอีกข้างยังเป็น Pan Cake ลองเล่นดูไม่ค่อยจะน่าเสี่ยงสักเท่าไหร่ เพราะเริ่มเห็นเส้นเทปที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบไม่เหมือนกับม้วนที่เป็น Pan Cake โดยตรงจะเรียบกว่า เลยจัดการเปลี่ยนให้ใช้ Star Hub ทั้งสองด้านเพื่อให้สามารถใช้ NAB Hub ได้ทั้งสองด้าน แต่ Take Up Reel 12″ ดันมีอยู่ล้อเดียวสงสัยต้องสั่งมาสักสิบล้อจะได้ใส่ประจำทุกตัวได้เลยครับ

เสียงแรกจากม้วนรีลมาสเตอร์ที่เล่นผ่าน Studer C37 น้ำเสียงดีมากแต่…กลับเฟสข้างนึงเลยต้องไล่เช็คเฟสกันว่าข้างไหนที่ต้องจัดการกลับเฟส และถือโอกาสเปลี่ยน XLR Connector เพื่อให้สามารถนำสาย Nordost Odin2 มาใช้งานตรงจุดนี้ได้ หลังจากใช้เวลาพอสมควรเจ้า Studer C37 ก็พร้อมใช้งานครับ ลองฟังเสียงแรกที่ทุกอย่างถูกต้องอีกครั้งต้องยอมรับว่า น้ำเสียงยอดเยี่ยมมาก ทั้งรายละเอียด ความสมจริงของเสียง ความกระจ่างกังวานของเสียงยอดเยี่ยมมาก ยิ่งผ่านเวลาใช้งานไปเรื่อยยิ่งดีแอมเบียนซ์ กับเวทีเสียงแผ่ลึกทะลุผนังด้านหลังไปหลายเมตรทีเดียวครับ

8 ธ.ค 2560 นัดหมาย SOD ของสุดยอด Analog Source Reel-to-Reel 2 ค่ายสามรุ่น Studer A820 C37 และ Ampex ATR-102 เพื่อให้ทุกตัวอยู่ภายใต้เงื่อนไขการทดสอบเดียวกัน Studer C37 ตัวปลั๊กเป็นขากลมไม่สามารถเสียบกับปลั้กผนังได้โดยตรง ต้องพึ่งปลั๊กพ่วงดังนั้นทั้ง Studer A820 และ Ampex ATR-102 จึงต้องย้ายสายมาเสียบลงปลั๊กพ่วงชุดเดียวกัน ทุกเครื่องผ่านการวอร์มอัพด้วยการเล่นเทปรีลมาสเตอร์ 1 ม้วน ใช้สายสัญญาณ Nordost Odin2 เส้นเดียวกันโดยใช้วิธีถอดสลับทีละเครื่อง ลำโพงอ้างอิงคือ Wilsonaudio The WAMM Master Chronosonic เพาเวอร์แอมป์ Dartzeel NHB-458 และปรีแอมป์ Dartzeel NHB-18NS

เนื่องจากใช้เวลาเตรียมเครื่องวอร์มอัพระบบ และวอร์มอัพเครื่องเล่นเทปรีลแต่ละเครื่องกินเวลาพอสมควร เลยรวบรัดวัดการทดลองเปรียบเทียบกันเพียงหนึ่งบทเพลงใช้เพลง House of Rising Sun จากม้วนรีลมาสเตอร์ Opus 3 ทุกเครื่องใช้ Take up Reel ของ Feinwerktechnik ในการกรอพักเทปเพื่อเล่นกลับ เริ่มต้นจาก Ampex ATR-102 ตามด้วย Studer C37 และ A820 ตามลำดับ

ในแง่ของรายละเอียดชิ้นดนตรีความเป็นมาตรฐานก็ต้องยกให้ A820 ความน่าฟังและการเข้าถึงความเป็นดนตรี C37 ให้ได้ดีที่สุด เสียงร้องก็ต้องยกให้ C37 รองลงมาก็คือ A820 บรรยากาศเสียงต้องยกให้ C37 ที่ให้ความกังวานสั่นค้างของหางเสียงในอากาศได้สมจริงมากที่สุด ความลึกและการแผ่กว้างก็ต้องยกให้ C37 และ A820 ถ่ายทอดออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก โดยรวมต้องยกนิ้วให้กับรีลที่แก่ที่สุดอย่าง C37 ว่าเก๋าเกมส์ทั้งจังหวะลีลาเด็ดดวงกว่ารีลรุ่นหลังพอสมควร แต่ในแง่ของกลไกเฉียบขาดก็ต้องยกให้กับรีลรุ่นน้องค่ายเดียวกันว่า A820 ยอดเยี่ยม ส่วน ATR-102 ปกติเป็นเครื่องเล่นเทปรีลตัวหนึ่งที่ให้เสียงดีมาก แต่วันนี้เจอคู่เปรียบที่ข้ามรุ่นไปมากเลยทำให้เป็นรองในหลายๆด้านครับ